Ooops... Error 404

Sorry, but the page you are looking for doesn't exist.

“อนุทิน” ยกทัพ “ภูมิใจไทย” หาเสียง “วงเวียนใหญ่” ขอคืนสยามเมืองยิ้ม สลายขั้วขัดแย้ง มุ่งทำงาน ยกระดับความเป็นอยู่ประชาชน

6 พฤษภาคม 2566 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยพร้อมคณะผู้บริหาร และแกนนำพรรค นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้ง กทม. ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อมทีมผู้สมัครพื้นที่ฝั่งธน ได้เดินทางมาช่วยนายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 26 หาเสียง มีประชาชน มารับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก  ทันที ที่นายอนุทินและคณะมาถึง ได้เข้าไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชนายอนุทิน กล่าวว่า ตนมาสักการะ และมาขอท่านใช้พื้นที่นำเสนอนโยบาย พร้อมขอให้คนไทย มีความสุข ก่อนขึ้นเวทีปราศรัย ประชาชนปรบมือต้อนรับอย่างกึกก้อง  นายอนุทิน กล่าวในการปราศรัย ว่า   เกือบ 20 ปีที่การเมืองไทยจมปลักอยู่กับความขัดแย้ง มันทำให้ความก้าวหน้าที่ควรจะเป็น ถูกรั้งเอาไว้ แต่ประชาชนก็อดทนกันมาได้ แต่จากปัญหา 2 ทศวรรษ สถานการณ์ที่เป็นอยู่ เราไม่ได้อดทนแต่เราต้องทนอดซึ่งมันไม่สมควรเกิดขึ้น จำได้ไหมครั้งหนึ่งประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นสยามเมืองยิ้มชั่วโมงนั้นบ้านเมืองสงบ คนไทยมีความสามัคคี ประเทศไทยพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเศรษฐกิจเติบโต แล้วย้อนกลับมาดูช่วง 20 ปีหลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นหรือไม่ ทุกท่านตอบคำถามตรงนี้ได้ ถึงเวลาแล้วที่คนไทย ต้องกลับมาจับมือช่วยกันผลักดันประเทศไปข้างหน้าให้พี่น้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น " ทั้งโลกรู้จักเราในฐานะของสยามเมืองยิ้ม มีการเข้ามาลงทุน เข้ามาท่องเที่ยว ทำให้เรามีความเจริญรุ่งเรือง แต่พอเราทะเลาะกันสิ่งเหล่านี้ก็หายไป ตอนนี้เรายังกลับตัวทัน ประเทศไทยต้องการการเมืองที่สร้างสรรค์ ต้องการเห็นคนไทยสามัคคี ซึ่งพรรคภูมิใจไทย อาสามาทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าเรามีโอกาสทำงานเราทำได้จริงแน่นอน" นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้กลับไปดูที่เนื้อในการทำงานของพรรค ในสภาผู้แทนราษฎรเราไม่เคยเล่นเกมป่วนสภา ที่สำคัญ ใครมีนโยบายดีๆ พี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ เราขอเข้าไปสนับสนุนหมด ไม่เคยคัดค้าน เพราะ เราคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ กับประชาชน เรามุ่งมั่นตั้งใจทำงานหาทางทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี ขอยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เรื่องของ กยศ. ก็เป็นรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยที่ผลักดันให้ผู้กู้กยศ.ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เรื่องโควิด-19 ช่วงที่กรุงเทพมหานคร มีการระบาดหนักกระทรวงสาธารณสุขได้เข้ามาช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่ ทั้งการเปิดศูนย์ฉีดวัคซีน ที่ สถานีกลางบางซื่อ ทั้งการเปิด โรงพยาบาลบุษราคัมเพื่อดูแลผู้ป่วย เมื่อพี่น้องวิตกกังวลกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 กระทรวงคมนาคมได้จัดหารรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการประชาชนนี่คือผลงานที่สัมผัสจับต้องได้  "ใครพูดอะไร ผมไม่สนใจ หน้าที่ของพรรคภูมิใจไทย คือทำงาน ให้มีผลงาน ประชาชนไว้วางใจ ผมจะทำให้ชีวิตพี่น้องรุ่งเรือง จำเริญแสนเพลิน เหมือน เดินอยู่ในวิมาน" จากนั้น นายอนุทินได้นำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ การพักหนี้ 3 ปี, กรมธรรม์ผู้สูงอายุ,  ตั๋ววันรถไฟฟ้า 40 บาท/วัน, ฟรี หลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าใช้จ่าย 450 บาทต่อเดือน, การให้สิทธิ์ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด , นโยบายแลนด์บริดจ์ เชื่อมชายฝั่งทะเลฝั่งอันดามันกับฝั่งอ่าวไทย เป็นต้น

“อนุทิน” หาเสียง “ปักธงชัย” ประชาชน 5 พันต้อนรับอบอุ่น ชูนโยบายสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิต ทุกอำเภอมีศูนย์ไตเทียม ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสี

3 เมษายน 2566  ณ สนามฟุตบอล โรงเรียนปักธงชัยชุณหะวัณวิทยาคาร ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัยจ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะได้เดินทางลงพื้นที่มาช่วย นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ผู้สมัครในพื้นที่หาเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาต้อนรับกว่า 5  พันคน  นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเอง มาอยู่ตรงนี้เห็นการต้อนรับจากพี่น้องประชาชน ภูมิใจในตัวผู้สมัคร ที่มีกองเชียร์มากมายขนาดนี้ ถึง ท่านจะชื่อเบี้ยว แต่รับรองว่าซื่อสัตย์กับประชาชน  จังหวัดนครราชสีมาเป็นศูนย์กลางของพื้นที่อีสาน ภูมิใจไทยมีต้นกำเนิดจากจังหวัดใกล้เคียงกับพี่น้อง คือ บุรีรัมย์ เมื่อเราเข้ามาทำงานในรัฐบาล ได้พยายามผนึกอีสานใต้เข้าด้วยกัน เรียกว่านครชัยบุรินทร์ ได้แก่ นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ชัยภูมิ และสุรินทร์ ถือเป็นเขตพัฒนาทางเศรษฐกิจ  เราบริหารบ้านเมืองมา 4 ปี ในเรื่องการคมนาคมขนส่งเราพัฒนามากมายให้กับพี่น้อง เส้นทางสัญจรไปมาสะดวก เรื่องของสุขภาพเราก็พยายามยกระดับด้านสุขภาพให้กับพี่น้องประชาชนให้มีความแข็งแรง เรื่องของคุณภาพชีวิตเราพยายามนำเสนอเรื่องของความมั่นคงเรื่องสุขภาพให้กับท่าน  "ปัจจุบัน คนไทยมีอายุยืนยาวขึ้น เพราะหมอเก่ง ยาดี สุขภาพเราก็ดีขึ้น อายุยืน แต่เราต้องการให้ท่านอยู่ดีด้วย จึงเพิ่มเติมเรื่องให้บริการสุขภาพมาตลอด เพราะตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอนนี้ใครเป็นโรคไตสามารถไปรับการฟอกไตฟรี  ในอนาคต โรงพยาบาลปักธงชัยโรงพยาบาลวังน้ำเขียว ทุกอำเภอจะต้องมีศูนย์ฟอกไต ประชาชนไม่ต้องเดินทางไกล ได้รับบริการที่ดี นอกจากนั้น เรายังมีนโยบายให้ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไกลแล้วยังได้รับการรักษาดีขึ้น เรื่องสุขภาพสำคัญ ผมทำมาตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่เรายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องการสานต่อ ต้องขอโอกาสจากพี่น้องประชาชนให้ได้กลับเข้าไปทำงาน" นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังเสนอนโยบาย ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าใช้จ่าย 450 บาทต่อครัวเรือนทั้งได้สิทธิ์ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท 60 งวด, นโยบายกรมธรรม์ประกันชีวิตผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป นโยบายการขึ้นค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาทต่อเดือน และกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายคนเป็นหนี้ครอบครัว และถ้าไม่เกิน 1 ล้านบาท เรามีนโยบายพักหนี้ 3 ปี เพราะรู้ว่าช่วงโควิด-19 คุกคามเรามา 3 ปี ทำให้คนเราเสียโอกาส ทำมาหากิน ไม่คล่องเหมือนเมื่อก่อน พรรคภูมิใจไทยต้องการให้พ่อแม่พี่น้องลืมตาอ้าปาก ฟื้นสภาพทางการเงินของตัวเองได้ "คนชื่อสมศักดิ์ พันธุ์เกษม ท่านรักผมมาก โทรหาผมตลอด  เจอหน้ากันทีไร ถามอยู่เรื่องเดียวปักธงชัย ต้องการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 วังน้ำเขียวต้องการ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ทั้งที่ โรงพยาบาล มหาราช เป็นพื้นที่ของคนอื่น ก็ ยังมาเสนอเผื่อเขา ดูสิคิดไปถึงพื้นที่อื่นด้วย ท่านเป็นคนที่นึกถึงพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว แต่ยังต้องการแรงสนับสนุนจากทุกท่าน ยิ่งท่านสนับสนุนท่านสมศักดิ์ ท่านก็ยิ่งมีพลังมาก เสียงของท่านก็ยิ่งจะดังขึ้นเมื่อเสียงดัง แน่นอนประชาชนที่เลือกเข้ามา ก็จะเสียงดังตามไปด้วย" นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้นอนหลับฝันดี เพราะสิ่งที่ ต้องการทำให้ประชาชนมันลุล่วงแล้วทั้งการฟอกไตฟรี ทั้งเรื่องของมะเร็งรักษาทุกที่ การเพิ่มเติมสวัสดิการผู้สูงวัย การผลักดันค่าตอบแทน อสม. แต่ก็ยังมีเรื่องที่ยังไม่ได้ทำอีกพอสมควรจึงต้องการโอกาสของประชาชนไปสานต่อโดยมีเป้าหมายเดียวคือประชาชนต้องอยู่ดีกินดีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจังหวัดนครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ส่งผู้สมัครจำนวน 16 เขตเลือกตั้งประกอบไปด้วย  เขต 1 นางสาวเดือนดารา อินทรกำแหง เบอร์ผู้สมัคร 4,  เขต 2 นายชูชาติ ประสาทไทย เบอร์ผู้สมัคร 2,  เขต 3 นายพงศ์พัฒน์ จิตตานุรักษ์ เบอร์ผู้สมัคร 5, เขต 4 นายมนัส ศรีบงกช เบอร์ผู้สมัคร 2, เขต 5 นายจักรกฤช ผาสุขมูล เบอร์ผู้สมัคร 5,  เขต 6 นายสมชาย ภิญโญ เบอร์ผู้สมัคร 2,  เขต 7 นายสหรัฐ ชัยพัฒนปรีดากูล เบอร์ผู้สมัคร 2, เขต 8 นายยตนะ เตียรวัฒนศรี เบอร์ผู้สมัคร 2, เขต 9 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี เบอร์ผู้สมัคร 1,  เขต 10 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เบอร์ผู้สมัคร 2,  เขต 11 นายพรชัย อำนวยทรัพย์ เบอร์ผู้สมัคร 7,  เขต 12 นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม เบอร์ผู้สมัคร 5,  เขต 13 นางสาวตติญารัต ใจสูงเนิน เบอร์ผู้สมัคร 4,  เขต 14 นายมานิธ จันทรวราภร เบอร์ผู้สมัคร 3, เขต 15 นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ เบอร์ผู้สมัคร 2 และ เขต 16 นายสุชาติ ภิญโญ เบอร์ผู้สมัคร 6

นับหมื่นเชียร์  “อนุทิน” ปราศรัยโคราช เปรียบนโยบาย “ภูมิใจไทย” เหมือนรางวัลที่ 1 แต่ประชาชนไม่ต้องลุ้น ขอเลือก ส.ส. เข้าป้าย เป็นรัฐบาล เดินหน้าแน่นอน

3 พฤษภาคม 2566 หน้าเทศบาล อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา  นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางลงพื้นที่ มาช่วยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส นครราชสีมา เขต 10 ปราศรัย แนะนำนโยบายมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 10,000 คน นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมุ่งทำงานไม่สร้างความขัดแย้ง ที่ผ่านมาสิ่งที่เราทำ ประชาชนได้รับประโยชน์ไว้มากมาย เช่น การฟอกไตฟรี ในอนาคตเรามีนโยบายให้ทุกอำเภอมีศูนย์ไตเทียมนโยบายของพรรคภูมิใจไทยที่ให้ไว้กับประชาชนนั้นมีคุณค่ามีประโยชน์ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกท่านไม่ต่างจากการถูกรางวัลที่ 1 " ใครอยู่ อ.โชคชัยมี ศูนย์ ไตเทียม  อ.โชคชัย ใครอยู่ อ.เฉลิมพระเกียรติ มีศูนย์ ไตเทียมที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อยู่อำเภอไหนมี ศูนย์ฟอกไตเทียมที่อำเภอนั้น ช่วยประหยัดการเดินทางประหยัดเวลา จากที่ลูกหลานต้องหยุดงานพาเราไป เราสามานถเดินทางไปได้ด้วยตัวเอง ถ้าสนใจเทียมอยู่ใกล้บ้านแล้ว สำหรับผู้ป่วยโรคไต นโยบายตรงนี้ ไม่ต่างกับการถูกรางวัลที่ 1 นโยบายพรรคภูมิใจไทย ก็เหมือนรางวัลที่ 1 แตกต่างที่ ปกติ หวยต้องลุ้น แต่พรรคภูมิใจไทยขอเพียงการสนับสนุนจากประชาชน ถ้าได้มากพอ ได้เข้าไปทำงาน รับรองว่าทำได้แน่นอน ไม่ต้องลุ้น" นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายด้านการสาธารณสุขที่สำคัญอีก 1 เรื่อง คือ นโยบายให้ทุกจังหวัดต้องมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ในจังหวัดโคราชเราเห็นคนมาใช้บริการมากมาย ผู้ป่วยจำนวนมาก มาจากต่างจังหวัด ก็ต้องรอคิวนาน แต่หาก ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสีมันก็ดีต่อชาวโคราชด้วย เพราะ ช่วยลดระยะเวลาการรอคิว เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา เพิ่มโอกาสรอดชีวิต "นี่คือรางวัลที่ 1 ของคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ให้เขามีโอกาสรอดชีวิตได้มากขึ้นมีชีวิตได้ยืนยาวขึ้น" นอกจากนั้น เราจะออกกรมธรรม์ประกันชีวิตมูลค่า 100,000 บาท แก่ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปหากเสียชีวิตไปแล้วเงินจำนวนนี้ ให้เป็นมรดกให้ลูกหลาน และยังสามารถนำมาใช้ก่อนได้ด้วย20,000 บาท นโยบายนี้จะทำให้ผู้สูงวัยไม่ต้องกังวล ลูกหลานไม่ต้องลำบาก  ขณะที่นโยบายพักนี้ 3 ปี พักหนี้ทั้งต้น และดอก ขอเพียงเป็นหนี้ถูกกฎหมาย จะช่วยให้ประชาชน ที่มีหนี้สินรุงรังได้มีโอกาสหายใจได้มีโอกาสเก็บเงินใช้หนี้ เรายังมีนโยบายเงินฉุกเฉิน 50,000 บาท ใช้บัตรประชาชนกู้ได้เลย แต่เดือนที่ 2 ต้องจ่ายคืนวันละ150 บาท ทั้งต้นทั้งดอกอยู่ในนั้น เท่ากับต้องจ่ายดอกเบี้ย 8.5% ต่อปี ท่านจะมีแหล่งทุน หากเกิดอุบัติเหตุในชีวิต ท่านไม่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินจากกลุ่มนอกระบบ นายอนุทินยังได้กล่าวถึงนโยบายด้านอสม. ว่า เรากำลังผลักดันเรื่องค่าตอบแทน อสม. ต้องเพิ่มเป็น2,000 บาทต่อเดือน และมีกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ ให้ลูกหลาน ได้รับเงิน 500,000 บาทหลังอสม.เสียชีวิต เราเคารพ และให้เกียรติ อสม. ในฐานะรากฐานที่สำคัญของระบบสาธารณสุขไทยไม่มีทางที่จะทำให้ท่านผิดหวัง และพร้อมจะปกป้องคุณค่าของท่าน "เรื่องกัญชา ภูมิใจไทยเน้นใช้เพื่อการแพทย์ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ เราไม่มีเป้าหมายให้ไปใช้เพื่อความบันเทิง ใช้เพื่อการสันทนาการเลย อย่าลืมว่าเราเป็นคนสนับสนุนให้ออกกฎหมายมาควบคุมด้วยซ้ำ  แต่การเมืองเล่นกันหนัก ขอให้ประชาชนเข้าใจข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในจังหวัดนครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ส่งผู้สมัครจำนวน 16 เขตเลือกตั้งประกอบไปด้วย  เขต 1 นางสาวเดือนดารา อินทรกำแหง เบอร์ผู้สมัคร 4,  เขต 2 นายชูชาติ ประสาทไทย เบอร์ผู้สมัคร 2,  เขต 3 นายพงศ์พัฒน์ จิตตานุรักษ์ เบอร์ผู้สมัคร 5, เขต 4 นายมนัส ศรีบงกช เบอร์ผู้สมัคร 2, เขต 5 นายจักรกฤช ผาสุขมูล เบอร์ผู้สมัคร 5,  เขต 6 นายสมชาย ภิญโญ เบอร์ผู้สมัคร 2,  เขต 7 นายสหรัฐ ชัยพัฒนปรีดากูล เบอร์ผู้สมัคร 2, เขต 8 นายยตนะ เตียรวัฒนศรี เบอร์ผู้สมัคร 2, เขต 9 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี เบอร์ผู้สมัคร 1,  เขต 10 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ เบอร์ผู้สมัคร 2,  เขต 11 นายพรชัย อำนวยทรัพย์ เบอร์ผู้สมัคร 7,  เขต 12 นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม เบอร์ผู้สมัคร 5,  เขต 13 นางสาวตติญารัต ใจสูงเนิน เบอร์ผู้สมัคร 4,  เขต 14 นายมานิธ จันทรวราภร เบอร์ผู้สมัคร 3, เขต 15 นายวิสิทธิ์ พิทยาภรณ์ เบอร์ผู้สมัคร 2 และ เขต 16 นายสุชาติ ภิญโญ เบอร์ผู้สมัคร 6

วางอุเบกขา ใช้สติสู้ ! “อนุทิน” โชว์นิ่ง ต้อนรับด้วยรอยยิ้ม หลัง “ชูวิทย์” บุกป่วนเวทีดินแดง ขณะช่วย “ภาดาท์” หาเสียง ด้านประชาชนตะโกนลั่น “เรามาฟังอนุทิน”  

2 พฤษภาคม 2566 ณ โดมหน้าสถานีตำรวจนครบาลดินแดง  นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ, คณะผู้บริหารพรรค, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 5  เปิดเวทีปราศรัยช่วย นางสาวภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัครส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 6 หาเสียง มีประชาชน มาฟังการปราศรัยประมาณ 1,000 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกคึกคัก  ซึ่งขณะที่นายอนุทิน กำลังพูดแนะนำนโยบาย ปรากฏว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ได้เข้ามาฟังการปราศรัยจากด้านนอก  ก่อนกล่าวโจมตีพรรคภูมิใจไทย ผ่านโทรโข่ง เกิดเสียงแทรกเข้ามาในเวทีปราศรัย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมงานของนางสาวภาดาท์ ได้ขอร้อง ให้นายชูวิทย์ ออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวาย  ด้านนายอนุทิน เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงกล่าวบนเวทีว่า “ต่างคนก็นำเสนอนโยบายของตัวเอง ผมนำเสนอนโยบายของภูมิใจไทย ส่วนนายชูวิทย์ ก็คงมีเรื่องราวอยากจะสื่อสาร ก็ปล่อยไป  รับฟังและต้อนรับด้วย พี่น้องประชาชนจะมองว่าใครถูกใครผิด ผมไปบังคับใครไม่ได้ นโยบายของพรรคภูมิใจไทย ทั้งเรื่องของการพักหนี้ กองทุนผู้สูงอายุ เงินกู้ฉุกเฉินที่พี่น้องปรบมือให้คือสิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ทำได้ เราก็พูดไป จะเลือกตั้งแล้ว ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า ส่วนคนข้างนอกที่มาโวยวายอยู่นั้น ตนขอตั้งจิตเป็นอุเบกขา ปล่อยวาง และขอทำหน้าที่เพื่อคนไทย ให้ดีที่สุด ภูมิใจไทย ไม่สร้างความขัดแย้ง”  ทั้งนี้ ระหว่างนั้น มวลชนที่มาฟังปราศรัยได้ตะโกนไล่นายชูวิทย์ว่า “ออกไป ออกไป” ขณะที่บางคนตะโกนว่า “เรามาฟังอนุทิน”  สำหรับการปราศรัย ในวันนี้ นายอนุทิน แนะนำผลงานที่สำคัญ ในพื้นที่กรุงเทพฯ คือ เรื่องของการจัดหารถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการ นโยบายฟอกไตฟรี และการขยายการให้บริการด้านรังสีวิทยาเป็นต้น พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายสำหรับการหาเสียงในการเลือกตั้งรอบนี้ อาทิ การพักหนี้ 3 ปีหยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย  กรมธรรม์ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป,  เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท,  การออกตั๋วรถไฟฟ้าเป็นตั๋ววัน วันละ 40 บาท,  นโยบายฟรี โซล่าเซลล์ ติดหลังคาบ้าน ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท และได้รับสิทธิ์ซื้อ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคา 6,000 บาท ผ่อนจ่ายเดือนละ 100 บาทเป็นเวลา 60 งวด เป็นต้น “ถ้าภาดาท์ได้เป็น ส.ส.ภูมิใจไทย ผมจะมานอนค้างบ้านท่านสักคน ใครให้บ้านผมนอน ผมนอน ขอค้าง 3 วันแก้บน ระหว่างนั้น ใครมีปัญหา มาคุยกันเลย ผมรับปาก แก้ไขให้ ทำเต็มที่ ที่สุดแล้ว เลือกคนนี้ คนชื่อภาดาท์ ประชาชนไม่ผิดหวัง สิ่งที่ภาดาท์ เจอวันนี้  ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจภาดาท์ เพราะสิ่งที่ได้รับ และมากยิ่งกว่า คือ กำลังใจจากพี่น้องประชาชน ที่มาฟังเราปราศรัย” 

สุดคึกคัก ! มวลชน 5,000 คน ฟัง “ภูมิใจไทย” ปราศรัยใต้ทางด่วนลาดพร้าว “อนุทิน” ประกาศ  ส.ส.ภูมิใจไทย พร้อมเป็นสุนัขรับใช้ประชาชน ทำงานสุดชีวิต ซื่อสัตย์สุดหัวใจ ชู เขตวังทองหลางต้องมีโรงพยาบาลรัฐ  

30 เมษายน 2566 ณ เวทีปราศรัย ใต้ทางด่วนลาดพร้าว  กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยแกนนำของพรรค  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพฯ, นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงพื้นที่ช่วย นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 5 ห้วยขวางวังทองหลาง ปราศรัย แถลงนโยบายพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางประชาชน ที่มารับฟังประมาณ5,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก  มีการส่งเสียงเชียร์ ตลอดการปราศรัย   นายอนุทิน  กล่าวว่า  ขอกราบขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่าน แม้จะเป็นวันหยุด แต่ท่านก็มารับฟังการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทย เป็นจำนวนมาก ส่วนตัว ลงพื้นที่ปราศรัยมาหลายวันติดต่อกัน เสียงเหลือน้อยแล้ว แต่ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะอาสามาเป็นผู้สมัครให้ท่าน ยังเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม เรามาพบกับท่านเพื่อยืนยัน ว่า ผู้แทนที่มาพบท่าน  คนชื่อนายประเดิมชัย เป็นคนดี มีความสามารถ  เป็นคนที่เรามั่นใจว่า จะช่วยให้พี่น้องอยู่ดีกินดี  “การเลือกคนของภูมิใจไทยเข้าไปทำงานในสภา  ขอสัญญาว่าเราจะเป็นเหมือนสุนัขรับใช้ประชาชนฟังดูแล้วเหมือนด้อยค่า แต่อย่าลืมว่า คุณสมบัติของสุนัข คือ มันซื่อสัตย์ ภักดี ต่อเจ้านาย ในที่นี้ คือประชาชน เราเข้าไปทำงาน จะไม่มีวันทิ้งท่าน จะทำงานให้พี่น้องประชาชนสุดความสามารถ” นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ภูมิใจไทย ไม่เคยมี ส.ส.กทม. แต่เราไม่เคยลืมคน กทม. ครั้งนี้ เรากลับมาอีกครั้ง เพื่อขอโอกาสจากประชาชน  โดยเฉพาะนายประเดิมชัย ที่ได้รายงานว่า พี่น้องมีความต้องการอะไรบ้าง ถ้าเราได้ไปทำงานให้ท่าน มั่นใจว่าไม่มีคำว่าผิดหวัง  ครั้งนี้ ภูมิใจไทย หวังว่า จะได้เสียงส.ส.เป็นเลข 3 หลัก กทม. คือ ส่วนที่จะช่วยเติมเต็มความหวังของเรา ในการเข้าไปทำงานรับใช้ประชาชน ถ้าเราได้ผู้แทน กทม.เราทำสุดความสามารถแน่นอน เราไม่พูดเรืองยาก แต่เราจะทำสิ่งที่ยาก และทำให้ได้จริง ทำให้ได้เร็ว และทำให้ได้เลย  “สำหรับพรรคภูมิใจไทย เราไม่มีทิฐิ ที่ผ่านมา ท่านไม่เลือกเรา แต่เราทำงานรับใช้ท่าน  ล่าสุด มีความต้องการโรงพยาบาลรัฐในพื้นที่วังทองหลาง ห้วยขวาง เราขอเสนอตรงนี้เลยว่า นโยบายของเราคือ การเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลในพื้นที่ และเราจะเข้าไปผลักดันให้เกิดโรงพยาบาลวังทองหลางประเทศไทย มีสถานพยาบาลรัฐนับหมื่นแห่ง จะให้ กทม. มีโรงพยาบาลรัฐมาเพิ่มอีก 5-6 โรงพยาบาล ทำได้แน่นอน นอกจากนั้น ทราบมาว่า พื้นที่นี้ มีปัญหา เรื่องที่อยู่อาศัยของประชาชน ทับซ้อนกับที่ดินรัฐ เราจะดูแลให้ มีวิธีการมากมายในการแก้ไขเรื่องนี้ แต่ทุกคนต้องมีสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย” จากนั้น นายอนุทิน ได้กล่าวถึงผลงานของพรรคภูมิใจไทย ได้แก่  การให้สิทธิ์ฟอกไตฟรี แก่ประชาชน, การจัดหาเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง  มาติดตั้งให้ครอบคลุมทุกพื้นที่,  การจัดหารถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการใน กทม. พร้อมทั้งนำเสนอนโยบายสำหรับการหาเสียงในการเลือกตั้งรอบนี้ อาทิการพักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย  กรมธรรม์ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป,  เงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท,  การออกตั๋วรถไฟฟ้าเป็นตั๋ววัน วันละ 40 บาท,  นโยบายฟรี โซล่าเซลล์ ติดหลังคาบ้าน ลดค่าไฟฟ้าหลังคาเรือนละ 450 บาท และได้รับสิทธิ์ซื้อ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ราคา 6,000 บาท ผ่อนจ่ายเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 งวด เป็นต้น “พรรคภูมิใจไทย นโยบายของเราทำได้จริง ขอเพียง ได้รับโอกาสจากประชาชนเลือกเราเข้าไปทำงานให้เท่านั้น ท่านฟังผมมาตั้งนาน ผมไม่พูดวิจารณ์ใครเลย เพราะผมเชื่อว่า การทำงานต้องร่วมมือกันทำ ถึงจะสำเร็จ เราไม่สร้างศัตรู แต่เรามุ่งทำงานสร้างมิตร ถ้าชอบแบบนี้ ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย” 

หอบมาเป็นกระสอบ ! “อนุทิน” ปราศรัย “กระบี่” ปล่อยนโยบายรัวๆ พักหนี้ 3 ปี –  กองทุนสูงวัย – ศูนย์ไตทุกอำเภอ – เงินกู้ฉุกเฉิน พร้อม ชูผลงานเด่น สะพานข้ามเกาะลันตา พัฒนาโรงพยาบาลก่อนอ้อนขอ ส.ส. ยกจังหวัด พร้อมย้ำสโลแกน “พูดแล้วทำ” 

24 เมษายน 2566 ที่ ศูนย์การค้ามหาราช ถ.มหาราช อ.เมือง จ.กระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และแกนนำพรรค ดร.นาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้เดินทางลงพื้นที่มาช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียง ประกอบไปด้วย เขต 1  นายกิตติ กิตติธรกุล หมายเลข 2 เขต  2, นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจ  หมายเลข 4 และ เขต 3  นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้องอดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย สมัยที่ผ่านมา หมายเลข 1 ท่ามกลางประชาชน ที่มาฟังปราศรัยอย่างคับคั่ง   นายอนุทิน กล่าวบนเวทีว่า วันนี้ ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นมาก เมื่อ 4 ปีที่แล้ว จังหวัดกระบี่ ทำให้เราได้ ส.ส.ภาคใต้ ตอนนั้น มาขอกันแบบนี้ บอกว่าถ้าพี่น้องเลือกเรา ส.ส.ท่านนั้น จะมีพลังมาก พอได้มา ปรากฏว่านายสฤษฏ์พงษ์ มีพลังมากขึ้นจริงๆ  เพราะมีประชาชนหนุนหลังแล้ว เป็นผู้แทนราษฎรทีนี้ ได้มาขอให้ช่วยเรื่องพื้นที่ ตนปฏิเสธไม่ลง เพราะท่านมาในฐานะผู้แทนคนกระบี่ ผู้แทนคนไทย ที่สำคัญคือ สะพานข้ามเกาะลันตา บอกว่าพี่น้องอยากได้มานานมาก ตนได้ฟังนายสฤษฏ์พงษ์ พูดถึงความจำเป็น ได้เร่งผลักดันให้ ตอนนี้ เดินหน้าแล้วอำนวยความสะดวกให้ประชาชน  แถมให้ด้วยการพัฒนาโรงพยาบาลในจังหวัดกระบี่ ด้านการท่องเที่ยวก็ทำให้ดีขึ้นไปอีก เราตอบแทนพระคุณชาวกระบี่ที่เลือกเรา  สนามบินกระบี่ อาคารใหม่ ก็เสร็จแล้ว เราไม่ลืมท่าน และเราก็ต้องการทำอีก  แต่มันต้องขึ้นกับว่าจะมีโอกาสนั้นหรือไม่ ซึ่งโอกาสที่ว่า ก็มาจากประชาชนนี่เอง เลือกมาคนเดียวได้ขนาดนี้ การเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม  ขอให้เลือกมาแบบยกจังหวัดเลย รับรองว่า การพัฒนา จะเกิดขึ้นแบบเร็วจี๋ ทันใจ ทันใช้แน่นอน    กับภาคใต้ ทั้งภูมิภาค ภูมิใจไทย ไม่ ไม่ได้มองไปแค่เรื่องของการท่องเที่ยว แต่เรามองไกลกว่านั้น ที่นี่ มีหลายจังหวัดที่จะเป็นเมืองเศรษฐกิจ เมืองอุตสาหกรรม ทั้งระนอง ชุมพร ในอนาคต เมื่อภูมิใจไทย เข้าไปเป็นรัฐบาล มั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์ต้องทำแน่นอน เชื่อมต่อการเดินทาง ทำให้ทั้ง2 จังหวัดเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจระดับภูมิภาค มีการจ้างงานมากขึ้น กระบี่ได้ประโยชน์ด้วยแล้วกระบี่ เรื่องการท่องเที่ยวมันต้องไปด้วยกันกับภูเก็ต  ตรัง พังงา ระนอง   ชัดเจนว่า ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนนับจากเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวมาประเทศไทย อย่างมากมาย เราต้องเตรียมตัวไว้    ลูกหลานเรา จะมีโอกาส ทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัว ถึงจุดหนึ่ง ต้องเตรียมพร้อมเพื่อไปแสวงหาโอกาส เราจึงมีนโยบาย เพื่อสร้างความมั่นคงให้ทุกท่าน เริ่มจากการพักหนี้ 3 ปีวงเงิน 1 ล้านบาท หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ยก่อน สร้างความมั่นคง ให้คนไทย ไม่ต้องกังวลกับหนี้สินให้มีเวลาได้คิด ได้ทำ ปีที่ 4 ค่อยคืน และคนไทย ที่มีเหตุฉุกเฉิน เรื่องเงินทอง เรามีกองทุนให้กู้ยืม50,000 บาท จะได้ไม่ต้องไปกู้นอกระบบ ส่วนผู้สูงอายุ เรามีกองทุนผู้สูงวัยคอยดูแล ให้ท่านใช้ดูแลตัวเอง เมื่อท่านเสียชีวิตไป เงินจะตกถึงลูกหลานท่าน 100,000 บาท   นอกจากนั้น เราจะเดินหน้านโยบายให้ทุกอำเภอมีศูนย์ฟอกไต ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสี สวัสดิการผู้สูงอายุต้องดีขึ้น  ลูกหลาน ไม่ต้องมาพะวง  เอาพลังไปทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัว ผู้สูงวัย ภาครัฐ จะเข้ามาดูแล พรรคภูมิใจไทย พยามหาสร้างความมั่นคง ให้ประชาชน  หลายนโยบายที่พูดไว้คือ สิ่งที่ทำได้เลยใน 6 เดือนแรกที่เป็นรัฐบาล  “พรรคภูมิจไทย ไม่ขายฝัน แต่เราขายผลงาน และเชื่อว่า สิ่งที่เราทำมาแล้ว จะทำให้ท่านไว้ใจเราได้เราไม่เชื่อในความขัดแย้ง เพราะถ้าทะเลาะกัน งานมันไม่เดิน ผลงานไม่เกิด ประชาชนเสียประโยชน์ถ้าท่านชอบแบบนี้ ก็เลือกเรา รับรองว่า ท่านจะไม่ผิดหวัง กับชาวกระบี่ ผมเชื่อว่าท่านประทับใจผลงานของท่านสฤษฏ์พงษ์  รอบนี้ ขอให้เลือกแบบยกจังหวัดไปเลย รับรองว่า ไม่นานเกินรอ ท่านได้เห็นผลงานเราแน่” 

เงินมา งานมา ชาวประชาร่ำรวย ! “อนุทิน” หาเสียง “พังงา” ประชาชนต้อนรับสุดคึก ชูนโยบายงบท่องเที่ยว 100 ล้านบาท  ประกาศพายกระดับสู่เมืองสุขภาพ เชื่อมต่อภูเก็ต-กระบี่ พร้อมมั่นใจได้อานิสงส์จากโครงการ “แลนด์บริดจ์”  

24 เมษายน 2566  ที่ศาลากลาง(หลังเก่า) อำเภอเมือง จังหวัดพังงา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร และแกนนำพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคและผู้สมัครบัญชีรายชื่อ นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรคและผู้สมัครบัญชีรายชื่อ  และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง  ประกอบไปด้วย เขต 1  นายอรรถพล ไตรศรี พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 และ เขต 2 เบอร 1 นายอำนาจ ดำรงพิทยากุล พรรคภูมิใจไทย บรรยากาศคึกคัก มีประชาชนเข้าฟังเป็นจำนวนมาก บนเวที นายอนุทิน และคณะขึ้นปราศรัยอย่างสนุกสนาน บางช่วงบางตอน นายอนุทิน ระบุว่า  พังงา มาแล้วมั่นใจ คนมาขนาดนี้ มันต้องได้แบบยกจังหวัด ทุกท่าน ทำตนจุกเลย นี่คือน้ำใจที่พี่น้องประชาชนชาวพังงามอบให้  ขอให้สัญญา ถ้ามีโอกาสได้ทำงาน จะทำสุดชีวิต สุดหัวใจ  ย้อนกลับไปปี 2562 ใครมาบอกว่า ภูมิใจไทย จะปักธงภาคใต้สำเร็จ มีแต่คนหัวเราะ แต่เราทำได้ มาครั้งนี้ ขอเพิ่มพังงา แบบยกจังหวัด จะเป็นไรไป เราไม่ได้ขอเฉยๆ แต่เราทำงานแลก เราส่งคนเก่ง คนที่ทุ่มเทมาดูแลกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา คือท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ เห็นฝีมือหรือไม่ พอเปิดประเทศได้ นักท่องเที่ยวไหลมา เทมา และจะมาแบบไม่หยุด ถ้าได้ทำงานต่อ ยิ่งจะมามากขึ้น มาทั้งคน มาทั้งเงิน ไหลเข้ากระเป๋าคนไทย  งานของเรา คือ การสร้างความมั่นคง ทั้งเรื่องของเงินทอง และสุขภาพ ต้องไปด้วยกัน ตนพูดเสมอว่า อยากทำให้ด้ามขวานไทย เป็นด้ามขวานทอง ที่ผ่านมา พยายามทำอยู่ แต่ตอนนี้  มีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าเดิม ทั่วโลก มีความขัดแย้ง แต่อาเซียน มีความสงบสุข ประเทศไทยอยู่ตรงกลาง เดินทางไปมา ผ่านประเทศไทย ต้องเอาเงินมาใส่กระเป๋าเราด้วย  จึงมีนโยบายแลนด์บริดจ์ ยกระดับระบบลอจิสติคส์ในภูมิภาคนี้ ร่นระยะเดินทาง 7 วัน เชื่อมอ่าวไทย อันดามัน ผ่านระนอง – ชุมพร ขนส่งสินค้ารวดเร็ว จะส่งไปญี่ปุ่น ให้ออกไปทางชุมพร จะไปยุโรป ให้ออกระนองอาหารทะเลสดๆ จากไทย ต้องพร้อมส่งทั่วโลกแล้ว โครงการนี้ ได้อานิสงส์กันหมด พังงาก็ได้ด้วยเพราะเป็นจังหวัดใกล้เคียง  “แต่ที่มองเห็น และต้องการทำให้เกิดคือ การทำให้พังงา เป็นคลัสเตอร์ด้านการท่องเที่ยว ไปกับภูเก็ต กระบี่ มาเที่ยวภูเก็ต ต้องไปพังงานด้วย ที่สำคัญ ต้องทำให้จังหวัดที่กล่าวมา เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ภูเก็ต ไปได้ไกลแค่ไหน กระบี่ไปได้ไกลแค่ไหน พังงา ก็ต้องไปได้ไกลไม่แพ้กัน เรามีนโยบายงบท่องเที่ยว จังหวัดละ 100 ล้านบาทด้วย ตรงส่วนนี้ จะช่วยพัฒนาสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในจังหวัด อะไรที่ชำรุดทรุดโทรม ต้องได้รับการแก้ไขรับรองว่า ทั้งแลนด์บริดจ์ ทั้งเรื่องการท่องเที่ยว จะสร้างเม็ดเงินมหาศาลให้พังงา เงินมา งานมา ชาวประชา มีความสุข ที่ผมพูดมา ไม่ได้ฝัน แต่ผมพร้อมจะทำ สิ่งที่ผมรอคือโอกาสของประชาชน ผมอยากเห็นท่านกินดี อยู่ดี พื้นที่ ได้รับการพัฒนา ถ้าเลือกภูมิใจไทย เข้ามาแบบยกจังหวัด ท่านได้เห็นการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน เพราะพรรคนี้ เราแหลงแล้วทำ ถ้าไม่ทำ เราไม่แหลง” 

“อนุทิน” ลงพื้นที่ภูเก็ต ยกเป็นนางกวักประเทศไทย มั่นใจตอกเสาเข็มการเมือง ขอโอกาสทำงานต่อเนื่อง ชูนโยบาย ปั้นเมืองสุขภาพระดับโลก 

24 เมษายน 2566 ณ ยิมเนเซียม บริเวณสะพานหิน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต นายอนุทิน ชาญวีรกูลหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร และแกนนำพรรค นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคและผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนสมาชิกพรรค และผู้สมัครบัญชีรายชื่อ, ดร.นาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรค, และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายนิพนธ์ เอกวานิช เบอร์ 3  เขตเลือกตั้งที่ 2 นายวงศกร ชนะกิจ เบอร์ 5  และเขตเลือกตั้งที่ 3 นายวิวัฒน์ จินดาพล เบอร์  9 นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งปี 62 ไม่มีใครคิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีส.ส. จากภาคใต้ได้กว่า 10 ที่นั่ง แต่ที่สุดแล้วมันก็เกิดขึ้น เพราะความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ตรงส่วนนี้ตระหนักอยู่ในหัวคิดของพรรคภูมิใจไทยตลอดเวลาว่าจะต้องตอบแทนความไว้เนื้อเชื่อใจที่ประชาชนมอบให้  ที่ผ่านมา เราพัฒนาถนนหนทางให้ประชาชนเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ไปจนถึงขยายบริการด้านสาธารณสุข ล่าสุดเราประสบความสำเร็จในการผลักดันสะพานเชื่อมพัทลุง-สงขลา และสะพานข้ามเกาะลันตา จ.กระบี่ อนาคต เราจะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมต่ออ่าวไทยกับทะเลอันดามันผ่านจังหวัดชุมพร-ระนอง  สำหรับจังหวัดภูเก็ต  ท่านพิสูจน์ศักยภาพของท่านมาแล้ว จากการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่เราจะเพิ่มโอกาสให้พวกท่านมากขึ้นด้วยการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Medical Hub หลายชาติกำลังเข้าสังคมผู้สูงวัย เขาต้องมองภูเก็ตในฐานะเป้าหมายของเขา  "ที่ผ่านมา ท่านเหมือนนางกวักของประเทศไทย นักท่องเที่ยวมาไทยเพราะ อยากมาชื่นชมความสวยงามของภูเก็ต เมื่อเขามาแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง" นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า รอบที่แล้ว เราปักธงที่จังหวัดใต้ได้หลายจังหวัด มารอบนี้ ขอตอกเสาเข็มเพิ่มที่ภูเก็ตจะได้ไหม แต่จากที่เห็น พี่น้องประชาชนมาต้อนรับเราขนาดนี้ ผมคิดว่าเราทำได้ ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยเราเป็นพรรคที่ให้ความสำคัญกับการทำงาน ที่ผ่านมาพื้นที่ภาคใต้ในการดูแลของกระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีรัฐมนตรีมาจากพรรคภูมิใจไทย ท่านได้เห็นผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้ว หากท่านต้องการเห็นการพัฒนาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรุณาไว้วางใจให้เราได้ทำงานต่อ เราจะเปลี่ยนด้ามขวานไทยให้เป็นด้ามขวานทอง

Stay Connected

22,878แฟนคลับชอบ
3,870ผู้ติดตามติดตาม
- Advertisement -spot_img

Latest Articles