วันนี้ (21 พ.ค. 64) ณ สถานีกลางบางซื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำทีมลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะใช้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนไวรัสโควิด 19 นอกโรงพยาบาลที่จะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนในเดือนมิถุนายนนี้ โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ให้การต้อนรับ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลที่สถานีกลางบางซื่อว่าขณะนี้สถานที่ถือว่ามีความพร้อมและเหมาะสมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกันบูรณาการให้เป็นสถานีฉีดวัคซีนที่เป็นรูปธรรม โดยจะสามารถฉีดได้ประมาณ 10,000 คนต่อวัน โดยจะเริ่มจากกลุ่มบุคลากรด้านการคมนาคมขนส่งสาธารณะ ที่มีอยู่ประมาณ 300,000 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากในการให้บริการ ต้องสัมผัส พบปะกับประชาชนจำนวนมาก จะทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการใช้บริการขนส่งธารณะ ตามเจตนารมณ์ของกระทรวงคมนาคม และหลังจากนั้น จะให้หน่วยงานราชการต่างๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นลักษณะกลุ่มองค์กรต่อไป ซึ่งเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดสรรพื้นที่ภายในสถานีกลางบางซื่อสำหรับใช้เป็น “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” เพื่อให้บริการแก่ประชาชนและผู้ให้บริการในระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้รับผิดชอบจัดหาวัคซีนและบุคลากรทางการแพทย์โดยกรมการแพทย์และสถาบันโรคผิวหนังเป็นหน่วยงานหลัก ในการดูแลและให้บริการฉีดวัคซีนแต่ละวัน ส่วนกระทรวงคมนาคมจะรับผิดชอบในเรื่องสถานที่และเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ซึ่งปัจจุบันได้เตรียมความพร้อมสำหรับให้บริการแล้วอย่างเต็มที่ ทั้งจัดสรรพื้นที่รวม 14,294 ตร.ม. และยังมีพื้นที่สํารองที่สามารถขยายได้หากเกิดความแออัด ทั้งดานนอกอาคารและอาคารโถงโดยสารชั้นใน ตลอดจนการดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และลานจอดรถให้เพียงพอด้วย เพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อเป้าหมายในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่ประชาชน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ด้านนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานอำนวยการบริหารจัดการแก้ไขสถานการณ์โควิดในระบบขนส่งมวลชน กล่าวว่ากระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีน ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ให้มีการทำงานที่สะดวกเหมือนกับทำงานอยู่ภายในโรงพยาบาล นอกจากนี้ การเดินทางมายังสถานีกลางบางซื่อ ประชาชนสามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงิน รถขนส่งมวลชนสาธารณะ ซึ่งได้อำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้แก่ประชาชน โดยการจัดรถประจำทาง ขสมก. จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ 1) ท่าน้ำบางโพ-สถานีเตาปูนสายสีม่วง 2) อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 3) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว – BTS สถานีหมอชิต หรือ รถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสวนจตุจักร – สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (เป็นวงรอบ) และมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งสามารถจอดรถได้ถึง 1,500 คัน
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จะทำการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ให้บริการด้านการขนส่งสาธารณะทุกประเภทและส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจในกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับได้กว่า 10,000 คน/วันสำหรับผู้ที่จะเข้ามารับบริการฉีดวัคซีน จะต้องลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อมเพื่อรับคิว หรือเดินทางมาลงทะเบียนที่สถานีกลางบางซื่อ เพียงยื่นบัตรประชาชนเพียงใบเดียว และรับบัตรคิวที่สถานีกลางบางซื่อได้เลย