เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย. ที่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จะเริ่มทยอยส่งมอบให้ประเทศไทยตามกำหนด แต่แม้ว่าการฉีดวัคซีนจะเป็นไปตามความสมัครใจ ก็ขอเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับตนเอง คนในครอบครัวของท่าน และยังถือเป็นการช่วยชาติควบคุมโรค
นายอนุทิน กล่าวว่า สธ. เตรียมแผนกระจายวัคซีน 3 รูปแบบหลักๆ คือ 1.ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม 2.โรงพยาบาล(รพ.) นัดผู้ป่วยตามประวัติรักษาโรค และสำหรับผู้ที่ไม่มีมือถือ จะมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เคาะประตูบ้าน ลงทะเบียนให้ และ 3.การฉีดในองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยทำเรื่องส่งรายชื่อมายังกรมควบคุมโรค เพื่อจัดลำดับ นัดวันและสถานที่ เข้าไปรับการฉีด และอีกรูปแบบคือ องค์กรจัดเตรียมสถานที่ และออกค่าใช้จ่ายจ้างบุคลากรจาก รพ.เอกชน มาฉีด ทางกระทรวงฯ ก็จะส่งวัคซีนไปให้
ต่อเรื่องการวอล์ก อิน(Walk in) เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 นายอนุทิน กล่าวว่า วัคซีนนั้น คนมีความต้องการฉีดมาก เพื่อความรวดเร็วพยาบาลจะเตรียมฉีดให้กับผู้ที่จองคิวไว้ในแต่ละวัน แต่ต้องมาดูที่หน้างาน ถ้าคนที่จองคิวมาแล้วพอถึงวันจริงอาจจะไม่ว่าง หรือ มาแล้วอาจจะไม่ได้ฉีด เช่น ความดันสูงเพราะตื่นเต้น รวมถึงบางคนอาจจะได้รับการฉีดจากช่องทางอื่นแล้ว เช่น บริษัทพาไปฉีดแล้ว ลงทะเบียนกับ อสม. และได้ฉีดไปแล้ว หรือต่างๆ ก็จะทำให้มีวัคซีน ซึ่งไม่ได้ใช้ และอย่างที่ทราบกันว่า วัคซีนไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ต้องหาทางนำมาบริการตามกำหนดเวลา
ดังนั้น ก็จะนำส่วนนี้ฉีดให้กับผู้ที่วอล์ก อิน ซึ่งไม่ได้จองคิวล่วงหน้าได้ แต่ถ้าวอล์ก อิน มาแล้วไม่มีวัคซีนว่างในวันนั้น ก็สามารถทำการนัดเพื่อมาฉีดในวันหลัง
“อย่างไรเสียผู้ที่ลงทะเบียนรับบริการ ก็ยังได้รับสิทธิ์ก่อน ดังนััน ขอให้ประชาชนลงทะเบียนตามระบบ ส่วนวอล์ก อิน เป็นช่องทางเสริมเท่านั้น”
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า แผนการให้บริการวัคซีน เป็นแผนที่ต้องปรับเปลี่ยนได้ ให้สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง กระทรวงฯ รับแนวทางมาจาก ศบค. แต่ก็พร้อมเสนอแนวทางเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ถึงหน้างานเราก็ต้องปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมด้วย ทุกคนช่วยกันทำงาน