เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า วันนี้ตนได้เข้าร่วมประชุมกับ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รายงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) และ สธ. ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรายงานการเข้ามาของจำนวนวัคซีนแต่ละเดือน โดยประเทศไทยมีวัคซีนหลัก คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่จะทยอยส่งมาให้กรมควบคุมโรคตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป
แผนการกระจายวัคซีน 3 ช่องทาง คือ 1.ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม 2.การนัดของโรงพยาบาล(รพ.) อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และ 3.การฉีดในระดับองค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กลุ่มบริษัท กลุ่มธุรกิจ สามารถทำได้ 2 รูปแบบ
คือ 1.องค์กรทำเรื่องและส่งรายชื่อมายังกรมควบคุมโรค เพื่อให้มีการจัดลำดับ นัดวัน-เวลา เข้ามารับบริการฉีดในหน่วยบริการของรัฐ และ 2.องค์กร จัดเตรียมสถานที่ และออกค่าใช้จ่ายจ้างบุคลากรจาก รพ.เอกชน มาฉีดให้บุคลากรของตัวเอง ประสานมายังกรมควบคุมโรค เพื่อให้จัดส่งวัคซีนไปให้ นับเป็นการแบ่งเบาภาระงานของ สธ. และเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม(CSR) ขณะนี้มีหลายองค์กรติดต่อเข้ามา เช่น กระทรวงคมนาคม ขอให้ฉีดในบุคลากรระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางน้ำ หรือทางอาการ โดยเสนอใช้สถานีกลางบางซื่อ เป็นจุดบริการ
นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนั้น ตนได้หารือร่วมกับ รมว.แรงงาน ที่ท่านเสนอว่าจะขอนำวัคซีนไปบริการฉีดให้กับผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม โดย สธ. ยิ่งดีอย่างยิ่ง เป็นการดีที่หลายหน่วยงาน เข้ามาช่วยกันฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด ขณะนี้ รัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง