ตลอดระยะเวลาที่ท่านรองฯ ได้มาดำรงตำแหน่งสำคัญ ทั้งในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ไปจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
สิ่งหนึ่งที่เป็นเครื่องหมายการค้าของรองฯหนู คือ ความเป็นคนที่ปกป้อง และเห็นอก เห็นใจ ผู้ใต้บังคับบัญชา
เป็นไปไม่ได้ ที่ผู้ใต้บังคับบัญชา จะทำทุกอย่างถูกใจไปเสียหมด เพราะความจริง ก็มีบางเรื่องที่ทำให้รองฯหนู “ควันออกหู” เลยทีเดียว
แต่ท่านรองฯ ก็ไม่เคยทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชารู้สึก “Fail” กับงาน
ด้วยความที่ท่านเป็นคน “ตามงาน” เวลาลูกน้องทำงานแล้วมีจุดที่ต้องแก้ไข รองฯหนู จะต่อสายไปตักเตือนโดยตรง
รู้กันแค่ 2 คน
ท่านให้เกียรติคนทำงานด้วยกันเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท่านมักพูดอยู่เสมอว่า
“จะด่าอะไร ให้มาด่าที่ผม จบที่ผม”
แน่นอนว่าด้วยลักษณะนิสัยแบบนี้ จึงทำให้ผู้ที่ที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นในฐานะไหน ก็ต่างรัก และเคารพท่านรองฯ
เมื่อครั้งต้องสู้ศึกซักฟอก ก็เป็นเหล่าหมอจากกระทรวงฯ ที่ไปตั้งวอร์รูม ช่วยท่านรองฯ ชี้แจงต่อสังคม ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์เลยทีเดียว
และ ณ ปัจจุบัน เวลาท่านรองฯ ถูกวิจารณ์ ก็จะมีหมอออกมาให้ข้อมูลแก้ไขในทันที
มันเกิดจากความเห็นอกเห็นใจระหว่างกัน
ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ท่านรองฯ เสียสละตัวเองรับกระสุนเสียงด่าทอ ซึ่งหลายเรื่อง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับท่านแม้แต่น้อย
แต่ท่านก็ไม่เคยโบ้ยใครเลย กลับนิ่งสงบ ก้มหน้าก้มตาทำงานสู้เสียงวิจารณ์
จะไม่ยอมให้ลูกน้องโดนใครตำหนิ
แต่จะออกรับแทนเสมอสมเป็น ผู้นำ ที่เข้าใจ “คน” มิได้ใช้อำนาจสักแต่ข่มเหงลูกน้อง หรือใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือบริหารองค์กร ทว่า รองฯหนู ใช้ความเข้าใจ เดินหน้าหน่วยงาน
กัดฟัน ทำงาน แอ่นอกรับผิด แอ่นอกรับชอบ
ร่วมทุกข์ ร่วมสุข
ในฐานะผู้นำ