“ไม่เป็นไรเลย ดีเสียอีก จะได้มาช่วยกันทำงาน”
ความเห็นแรกของ รองฯหนู หลังจากทราบว่าไม่มีชื่อของตนอยู่ในคณะทำงานจัดหาวัคซีนทางเลือก 10 ล้านโดส
คณะทำงานชุดดังกล่าว มี นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน ผนึกกำลังกับทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุข และตัวแทน รพ.เอกชน ทั้งเครือ รพ.กรุงเทพ รพ.ธนบุรี รพ.วิภาราม รพ.เมดพาร์ค เข้ามาร่วม
ซึ่งหลายคนรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีชื่อท่านรองฯอยู่ในนั้น เพราะได้ชื่อว่าเป็นมือประสาน 10 ทิศ ก็สมควรจะได้ใช้ความสามารถนี้ ให้กับคณะทำงานที่เพิ่งแต่งตั้งขึ้นมา เพราะอย่าลืมว่า เบื้องหลังความสำเร็จในการเจรจาจนไทยได้รับวัคซีนได้เร็วกว่าแผนเดิม ก็เพราะคนชื่อ ‘อนุทิน” นี่เอง
อย่างไรก็ตาม ท่านรองฯ ได้อธิบายว่า
“ถึงผมจะไม่ได่มีส่วนร่วม แต่ก็พร้อมสนับสนุนการทำงาน ในนั้น มีหมอของกระทรวงฯ หลายคน คุ้ยเคยกันทั้งนั้น ต่อสายโทรหากันได้เลย”
แว่วมาว่า ท่านรองฯ ไม่ได้คิดมากกับเรื่องที่ไม่ปรากฏชื่อของตนในคณะทำงาน เนื่องจากตัวท่านฯ ก็อยากพักจากเรื่องนี้เต็มที เพระเรืองวัคซีนกลายเป็นเป้าให้ถูกวิจารณ์จากฝ่ายการเมืองอย่างหนักหน่วง ซึ่งเป็นไปตามธงของบางพรรค ที่ล็อกเป้าจัดหนักประเด็นนี้โดยเฉพาะแบบไม่ต้องฟังคำอธิบาย ให้เพียงพูดซ้ำ พูดย้ำ เป็นนกแก้ว นกขุนทอง
ถึงขั้นที่ท่านเคยเปรยว่า
“เหมือนยกภูเขาออกจากอก”
ที่ผ่านมา แม้จะมีคำอธิบายจากหมอหลายท่าน ว่า ไทยไม่เคยปิดกั้นการขึ้นทะเบียน และการให้บริการ พร้อมอนุญาตเอกชน ไปหารือกับผู้ผลิตมาตลอด แต่ไม่มีความคืบหน้า
ส่วนสำคัญ เพราะผู้ผลิต ต้องการหารือกับรัฐ เนื่องจาก ต้องการให้รัฐ เข้ามารับผิดชอบผลกระทบจากวัคซีน เมื่อคุยกันผ่านชั้นนี้แล้ว ก็ใช่ว่าจะขึ้นทะเบียนได้ทันที
เพราะผู้ผลิตบางเจ้า ยังใส่เงือนไขไปอีกว่า การขึ้นทะเบียนจะเกิดขึ้น เมื่อมีการสั่งซื้อตามที่ผู้ผลิตกำหนด ที่หลายครั้ง ทางไทยมองว่าเป็นจำนวนที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการ และเวลาจัดส่ง ก็ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์
วงหารือก็ล่มไปทั้งแบบนี้
แต่ฝ่ายแค้น “ไม่เข้าใจ”
รองฯหนู ทราบดีว่า เรื่องวัคซีนเป็นอย่างไร เพราะที่ผ่านมาได้ทำสุดความสามารถแล้ว และหากมีผู้ทำได้ดีกว่า ก็พร้อมสนับสนุน
ทั้งนี้ หลังจากทราบว่า มีผู้มาแบ่งเบาภาระเรื่องวัคซีน ท่านรองฯ ดูอารมณ์ดีผิดหู ผิดตา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก็เพิ่งเล่น CLUB HOUSE ตอบคำถามประชาชนสารพัดเรื่อง
แม้ท่าน จะไม่มีชื่ออยู่ในคณะทำงานข้างต้น แต่กับวัคซีนที่กำลังทยอยเข้ามาเรื่อยๆ จำนวนกว่า 50 ล้านโดสในปีนี้ ก็ยังเป็นหน้าที่ของท่านในการวางแผนบริการประชาชนให้แล้วเสร็จตามเป้า
สำหรับท่านรองฯแล้ว ไม่ใช่คนที่ผูกขาดงาน ผูกขาดอำนาจไว้คนเดียว เพราะทราบดีถึงความจำเป็นของงาน ที่ต้องบูรณาการช่วยเหลือกัน ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งยังเต็มใจสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม และความนอบน้อม ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของท่านรองฯ ซึ่งคนทำงานด้วยกันสัมผัสได้
ที่สุดแล้ว ใครที่คิดว่าท่านรองฯ จะต้องมีน้ำโห ที่ชื่อหลุดจากคณะทำงานชุดนี้ ก็ต้องบอกว่าผิดถนัด
เนื่องจากท่านรองฯ
เข้าใจสถานการณ์
เข้าใจคนทำงาน
และใจกว้างพอ