“อนุทิน” ยินดี “ดร.เท็ดรอส” ประเทศสมาชิกวางใจ เลือกเป็น ผอ.WHO สมัย 2 พร้อมฝากความหวัง เร่ง ทั่วโลกฉีดวัคซีนโควิด-19 – สร้างระบบหลักประกันด้านสุขภาพ ระดับนานาชาติ

24 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ที่ นครเจนีวา สหพันธรัฐสวิส ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าร่วมหารือ  ประเด็นสำคัญในวันนี้ คือ การเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่ WHO ซึ่ง ดร.เท็ดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghrebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่ WHO คนปัจจุบันเป็นบุคคลเดียวที่ได้รับการเสนอชื่อโดยประเทศสมาชิกให้ได้รับเลือกตั้งในครั้งนี้  หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น นายอนุทิน   ระบุว่า

ขอแสดงความยินดี กับการที่ ดร.เท็ดรอส ได้เข้ามารับตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่นี้อีกครั้งหนึ่ง ขอชื่นชมความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง และความเป็นผู้นำของท่านตลอดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะการต้องต้องต่อสู้กับวิกฤตการระบาดของโควิด-19  กระทั่งที่สุดแล้ว มวลมนุษยชาติ สามารถรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาบัดนี้ เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของเหล่านวัตรกรรม ที่ WHO มอบให้ หนึ่งคือ การร่วมมือกันเพื่อจัดการโรคระบาด  ไปจนถึงระบบการแลกเปลี่ยนทรัพยากรที่จำเป็น และการให้ความสำคัญ กับระบบหลักประกันสุขภาพ เหล่านี้ จะเป็นรากฐานเพื่อสร้างความมั่นคงต่อระบบสาธารณสุขโลก

การเข้ารับตำแหน่งในสมัยที่ 2 ของ ดร.เท็ดรอส มาพร้อมกับความหวัง 3 ประการ เริ่มจากการบรรลุเป้าหมาย เรื่องการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมประชากรตามเป้าหมาย ในกลางปีนี้ เพื่อเร่งอัตราการฟื้นตัว จากวิกฤตการระบาดที่ผ่านมา พร้อมไปกับการเสริมสร้างระบบดูแลสุขภาพประชาชน ให้มีความทั่วถึงเท่าเทียม  ประการต่อมา คือการเสริมธรรมาภิบาลด้านการสาธารณสุขโลก ที่ WHO ต้องรับหน้าที่ เป็นผู้ประสานจัดหาความช่วยเหลือ ลงไปยังพื้นที่ต่างๆ ไปจนถึงการสร้างกลไก ให้ WHO พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงใหญ่ ทั้งปัญหาโรคไม่ติดต่อ และสังคมผู้สูงอายุ

 ทั้งนี้  เราหวังอย่างยิ่งว่า WHO จะเป็นผู้ให้คำแนะนำที่ดี ยามโลก ต้องรับมือกับปัญหาด้านสาธารณสุข สุดท้ายแล้ว ขอให้ WHO สนับสนุนการใช้เครื่องมือทางกฎหมายนานาชาติ เพื่อรับมือกับการระบาดใหญ่ในอนาคต และ เราพร้อมสนับสนุนท่านอย่างใกล้ชิด  เพื่อประโยชน์สูงสุด ของมวลมนุษยชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมสมัชชาอนามัยโลก นอกจากที่ รองนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการเลือกตั้งผู้อำนวยการใหญ่ WHO ยังเป็นโอกาสที่ผู้แทนประเทศสมาชิกจะได้หารือแลกเปลี่ยนในวาระสำคัญด้านสุขภาพ และ สาธารณสุข โดยรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมภายใต้หัวข้อ Health for Peace, Peace for Health และในโอกาสนี้มีกิจกรรมคู่ขนานที่รองนายกรัฐมนตรีจะได้นำเสนอผลสรุปจากกิจกรรมการประเมินสถานการณ์การรับมือกับโรคระบาดในประเทศไทยซึ่ง WHO ได้เลือกประเทศไทยให้เป็นประเทศต้นแบบลำดับที่ 3 ในการดำเนินกิจกรรม

ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีพร้อมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้มีกำหนดหารือทวิภาคีกับผู้แทนองค์กรและจากประเทศต่างๆ อาทิ หารือกับ ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ในประเด็นการดำเนินการตั้งสำนักงานเลขาธิการของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ในประเทศไทย การประเมินสถานการณ์การรับมือกับโรคระบาด หรือ Universal Health Preparedness Reviews : UHPR ในประเทศไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนการเตรียมการจัดประชุม APEC High-Level Meeting on Health and the Economy (HLM) ครั้งที่ 12 ที่ประเทศไทย

และยังได้หารือ กับผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกี่ยวกับความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างรัฐบาลไทย กับสำนักงานองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หารือร่วมกับ รมว.สาธารณสุขคาซัคสถาน ในประเด็นหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UHC) ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ปี 2566 รวมถึง ได้หารือกับ รมว.สาธารณสุขมาเลเซีย ในประเด็นความร่วมมือ ด้านสาธารณสุขระหว่างไทยกับมาเลเซีย และประเด็นความคืบหน้านโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชา ในทางการแพทย์ในประเทศไทย

Stay Connected

60,860แฟนคลับชอบ
1,699ผู้ติดตามติดตาม

Latest Articles