20 ธันวาคม 2564 จ.อุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ภายหลังจากที่ประเทศไทย สามารถให้บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนได้ถึงเป้าปี 2564 ที่ 100 ล้านโดส ว่า
ความสำเร็จที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะใครคนใดคนหนึ่ง หรือเพราะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ที่สำเร็จ ก็เพราะคนไทยทุกคน ทุกภาค ทุกส่วนช่วยกัน นี่คือเรื่องที่น่าภูมิใจ เพราะภารกิจจะยากเย็นแค่ไหน แต่คนไทย มีศักยภาพ ที่จะไปถึงเป้านั้นได้ ขอขอบคุณคนไทยทุกคน ดังนั้น เมื่อเราทำได้ เพราะทุกคนร่วมมือ นี่จึงเป็นความสำเร็จของทุกๆคนด้วย
วันนี้ โอมิครอน เข้ามาในประเทศไทยแล้ว แม้ยังไม่มีการระบาดในวงกว้าง แต่เราต้องไม่ประมาท ภาครัฐ พยายามปรับกฏปรับเกณฑ์ให้สอดคล้องกับสภานการณ์ เราเคย จะใช้การตรวจ ATK แทนการทำ RT -PCR ในการคัดกรองนักเดินทาง แต่ทันทีที่โลกรู้จักกับโอมิครอน เราชะลอแผนทันที เช่นเดียวกับมาตรการกักตัวที่ต้องทำให้รัดกุมขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุข จะเสนอให้ ศบค.ยกเลิกมาตรการ Test and Go แล้วกลับมากักตัว หรือ Sand Box แทน ก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างที่เราพร้อมปรับตัวตลอด
และเมื่อผลวิจัยมากมายออกมายืนยันตรงกันว่า การฉีดเข็ม 3 มีความจำเป็น เราก็ปรับให้ฉีดเร็วขึ้น จากที่ต้องรอฉีดหลังเข็ม 2 6 เดือน ก็ปรับเป็น 3 เดือน กระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยเฉยชากับการระบาดเลย ซึ่งเป้าหมายของไทย ในปีหน้า 2565 คือ การเร่งฉีดเข็ม 3 ให้เร็วที่สุด ไปพร้อมกับฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมขึ้น วันนี้ มีข่าวดี เพราะ อย.รับรองให้มีวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป แล้ว เป้าหมายของเราคือ ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิต ได้กลับมาประกอบอาชีพ แต่ต้องปลอดภัยด้วย ซึ่งเป้าหมายนี้จะบรรลุได้ ก็เหมือนกับเรื่องวัคซีน 100 ล้านคือ คือ คนไทยต้องช่วยกัน ซึ่งมั่นใจว่า เราทำได้แน่นอน